พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/138/478
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
อึดอัด ระอา รังเกียจ ไม่คิดว่า แม้เราก็เป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตาย
ไปได้ ก็และการที่เราซึ่งเป็นคนมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ได้เห็นคนอื่น
ที่ตายไปแล้วพึงอึดอัด ระอา รังเกียจ ข้อนั้นไม่เป็นการสมควรแก่เราเลย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อเรานั้นสำเหนียกอยู่ดังกล่าวมา ย่อมละความเมาในชีวิตเสียได้โดยประการทั้งปวง ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเมา ๓ ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ความเมาในความ
เป็นหนุ่มสาว ๑ ความเมาในความไม่มีโรค ๑ ความเมาในชีวิต ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชน
ผู้มิได้สดับ ผู้เมาด้วยความเมาในความเป็นหนุ่มสาวย่อมประพฤติทุจริตทางกาย ทางวาจา
ทางใจ ครั้นแล้ว เมื่อกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ปุถุชนผู้มิได้สดับ ผู้เมาแล้วด้วยความเมาในความเมาไม่มีโรค ฯลฯ หรือปุถุชนผู้มิได้สดับ
ผู้เมาแล้วด้วยความเมาในชีวิต ย่อมประพฤติทุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจ ครั้นแล้ว เมื่อกาย
แตกตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เมาแล้วด้วยความเมาในความเป็นหนุ่มสาวย่อมลาสิกขาสึกไป
ภิกษุผู้เมาแล้วด้วยความเมาในความไม่มีโรค ฯลฯ หรือภิกษุผู้เมาแล้วด้วยความเมาในชีวิตย่อม
ลาสิกขาสึกไป ฯ
ปุถุชนเป็นผู้มีความป่วยไข้ ความแก่ และความตายเป็นธรรมดา มีอยู่
ตามธรรมดา แต่พากันรังเกียจ ก็การที่เราพึงรังเกียจความป่วยไข้
ความแก่ และความตายนี้ ในหมู่สัตว์ซึ่งมีธรรมดาอย่างนี้ ข้อนั้นไม่
สมควรแก่เราผู้มีปรกติอยู่เช่นนี้เรานั้นเป็นอยู่เช่นนี้ รู้จักธรรมที่หมด
อุปธิ เห็นเนกขัมมะโดยความเป็นธรรมเกษม ย่อมครอบงำความเมาใน
ความไม่มีโรคในความเป็นหนุ่มสาวและในชีวิตเสียได้ทั้งหมด ความ
อุตสาหะได้เกิดแล้วแก่เราผู้เห็นนิพพานด้วยปัญญาอันยิ่ง บัดนี้เราไม่ควร
ที่จะกลับไปเสพกาม เราจักเป็นผู้ไม่ถอยหลัง จัก เป็นผู้มีพรหมจรรย์
เป็นที่ไปในเบื้องหน้า ฯ