พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/137/139 140

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 137
อันสงัดคือ ป่าและราวป่า เขาตรึกถึงกามวิตกบ้าง ตรึกถึงพยาบาทวิตกบ้าง ตรึกถึงวิหิงสาวิตกบ้าง ในเสนาสนะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้มีกายออกไปแล้วมีจิตยังไม่ออกอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้มีกายยังไม่ออกไปมีจิตออกไปอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ เสพเสนาสนะอันสงัด คือป่าและราวป่า เขาตรึกถึงเนกขัมมวิตกบ้าง อัพยาบาทวิตกบ้าง อวิหิงสาวิตกบ้างในที่นั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้มีกายยังไม่ออกไป มีจิตออกไปแล้วอย่าง นี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้มีกายยังไม่ออกด้วย มีจิตยังไม่ออกด้วยอย่างไร บุคคล บางคนในโลกนี้ ไม่เสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่าและราวป่าเขาตรึกถึงกามวิตกบ้าง ตรึกถึง พยาบาทวิตกบ้าง ตรึกถึงวิหิงสาวิตกบ้างดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้มีกายยังไม่ออกด้วย มีจิต ยังไม่ออกด้วยอย่างนี้แลดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้มีกายออกไปแล้วด้วย มีจิตออกไปแล้ว ด้วยอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่าและราวป่าเขาตรึกถึงเนก ขัมมวิตกบ้าง อัพยาบาทวิตกบ้าง อวิหิงสาวิตกบ้าง ในเสนาสนะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล เป็นผู้มีกายออกไปแล้วด้วย มีจิตออกไปแล้วด้วยอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวก นี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
[๑๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมกถึก ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ธรรมกถึกบางคนในโลกนี้ กล่าวธรรมน้อยและไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ทั้งบริษัทก็ เป็นผู้ไม่ฉลาดต่อประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ธรรมกถึกเห็นปานนี้ ย่อมถึงการนับว่า เป็นธรรม กถึกสำหรับบริษัทเห็นปานนั้น อนึ่งธรรมกถึกบางคนในโลกนี้ ย่อมกล่าวธรรมน้อยและประกอบ ด้วยประโยชน์ทั้งบริษัทก็เป็นผู้ฉลาดต่อประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ธรรมกถึกเห็นปานนี้ ย่อม ถึงการนับว่า เป็นธรรมกถึกสำหรับบริษัทเป็นปานนั้น อนึ่ง ธรรมกถึกบางคนในโลกนี้ ย่อมกล่าว ธรรมมาก แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ทั้งบริษัทก็เป็นผู้ไม่ฉลาดต่อประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ธรรมกถึกเห็นปานนี้ ย่อมถึงการนับว่า เป็นธรรมกถึกสำหรับบริษัทเห็นปานนั้น อนึ่ง ธรรมกถึก บางคนในโลกนี้ย่อมกล่าวธรรมมากและประกอบด้วยประโยชน์ ทั้งบริษัทก็เป็นผู้ฉลาดต่อประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ ธรรมกถึกเห็นปานนี้ ย่อมถึงการนับว่า เป็นธรรมกถึก สำหรับบริษัทเห็นปานนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมกถึก๔ จำพวกนี้แล ฯ
[๑๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย นักพูด ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน นักพูดย่อม จำนนโดยอรรถ แต่ไม่จำนนโดยพยัญชนะก็มี นักพูดจำนนโดยพยัญชะแต่ไม่จำนนโดยอรรถก็มี นักพูดจำนนทั้งโดยอรรถทั้งโดยพยัญชนะก็มีนักพูดไม่จำนนทั้งโดยอรรถทั้งโดยพยัญชนะก็มี