พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/134/475
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
นายนิรยบาลทั้งหลายจับเอาเท้าขึ้นเอาหัวลง แล้วโยนลงในหม้อเหล็กแดงไฟติดลุกโชน เขาถูก
ไฟไหม้เดือดเป็นฟองน้ำอยู่ในหม้อเหล็กแดงนั้นเมื่อเขาถูกไฟไหม้เดือดเป็นฟองน้ำอยู่ในหม้อ
เหล็กแดงนั้น ลอยขึ้นข้างบนครั้งหนึ่ง---บ้าง จมลงภายใต้ครั้งหนึ่งบ้าง ไปตามขวางครั้งหนึ่งบ้าง
เขาได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดร้อนอยู่ในหม้อเหล็กแดงนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาป
กรรมนั้นยังไม่สิ้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มหานรกนั้น
มี ๔ มุม ๔ ประตู จัดแบ่งออกเป็นห้องๆ มีกำแพงเหล็กล้อมรอบ
ครอบด้วยฝาเหล็กแดง มีพื้นแล้วด้วยเหล็ก ไฟลุกโชนประกอบด้วย
เปลว แผ่ไปไกลร้อยโยชน์โดยรอบตั้งอยู่ทุกเมื่อ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พระยายมได้มีความคิดว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ได้
ทราบว่าผู้ใดกระทำบาปกรรมไว้ในโลก ผู้นั้นต้องถูกนายนิรยบาลทำกรรมกรณ์ต่างๆ เห็นปานนี้
โอหนอ เราพึงได้ความเป็นมนุษย์ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพึงเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
ขอให้เราได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอให้พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นพึงทรงแสดง
ธรรม และขอให้เราพึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เรา
มิได้ฟังข้อความนั้นต่อสมณะหรือพราหมณ์อื่น แล้วจึงกล่าวอย่างนี้ แต่ว่าเราได้รู้มาเอง เห็นมา
เองทราบมาเอง จึงได้กล่าวดังนั้น ฯ
มาณพเหล่าใดอันเทวทูตทั้งหลายตักเตือนแล้ว ยังมัวเมาประมาท มาณพ
เหล่านั้น เป็นคนเข้าถึงหมู่ที่เลวทรามย่อมเศร้าโศกตลอดกาลนาน
ส่วนสัตบุรุษผู้สงบระงับในโลก นี้ อันเทวทูตตักเตือนแล้ว ย่อมไม่
มัวเมาประมาทในอริยธรรมในกาลไหนๆ เห็นภัยในความถือมั่น อัน
เป็นแดนเกิดแห่งชาติและมรณะ ย่อมหลุดพ้นในธรรมเป็นที่สิ้นชาติ
และมรณะ เพราะไม่ถือมั่น สัตบุรุษเหล่านั้นเป็นผู้ถึงความเกษม มี
ความสุข ดับสนิทในปัจจุบัน ล่วงพ้นเวรและภัยทั้งปวงข้ามพ้นทุกข์
ทั้งสิ้น ฯ
ราชสูตรที่ ๑