พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/126/119 120      
      สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
      
     
 
    
        
          
            		          ๙. วาจาสูตร
 [๑๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกนำมา
ไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว
สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ ๑ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ ๑
มีวาจาผิด ๑ มีการงานผิด ๑ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบ
ด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก ฯ
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมาไว้ใน
สวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียน
ผู้ควรติเตียน ๑ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ ๑ มีวาจาชอบ ๑
มีการงานชอบ ๑ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕
ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์ ฯ
		           จบสูตรที่ ๙
		         ๑๐. วายามสูตร
 [๑๒๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ  เหมือนถูกนำมา
ไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว
สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ ๑ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ ๑
 มีความพยายามผิด ๑ ระลึกผิด ๑ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประ
กอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก ฯ
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมาไว้ใน
สวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้
ควรติเตียน ๑ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ ๑ มีความพยายาม
ชอบ ๑ ระลึกชอบ ๑ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วย
ธรรม ๕ ประการนี้แลเหมือนถูกเชิญมาไว้ในสวรรค์ ฯ
						   จบสูตรที่ ๑๐
						จบอันธกวินทวรรคที่ ๓
						__________________