พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/125/65
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
แพ้แล้ว ได้บรรลุถึงฐานะอันไม่ไหวหวั่น ในกัลปที่ ๓๑ แต่กัลปนี้ ข้า
พระองค์โปรดดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้น ข้าพระองค์ไม่รู้ทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งการบูชาด้วยดอกไม้ ในกัลปที่ ๒๐ แต่กัลปนี้ ได้มีกษัตริย์
พระนามว่าสุเมธ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ
มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา
๖ ข้าพระองค์ทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาข้าพระองค์ได้ทำเสร็จ
แล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอาโปปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ อาโปปุปผิยเถราปทาน.
ปัจจาคมนิยเถราปทานที่ ๓ (๖๓)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกสาหร่าย
[๖๕] ในกาลนั้น เราเป็นนกจักรพรากอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสินธู เรามีสาหร่ายล้วนๆ
เป็นภักษาและสำรวมดีในสัตว์ทั้งหลาย เราได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจาก
ธุลีเสด็จไปในอากาศ จึงเอาจะงอยปากคาบดอกสาหร่าย บูชาแด่พระผู้มี
พระภาคพระนามว่าปัสสี ผู้ใดตั้งศรัทธาอันไม่หวั่นไหวไว้ด้วยดี ในพระ
ตถาคตด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทุคติ การที่เราได้มาใน
สำนักพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเป็นการมาดีหนอ เราเป็นนกจักรพรากได้
ปลูกพืชไว้ดีแล้ว ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราบูชาพระผู้มีพระภาคด้วย
ดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
ในกัลปที่ ๑๗ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ พระองค์ มีพลมาก ทรงพระนาม
เดียวกันว่าสุจารุทัสสนะ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระปัจจาคมนียเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ปัจจาคมนียเถราปทาน.