พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/125/212

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เล่ม 18
หน้า 125
มาณพนั้นผู้อันท่านพระอุทายีให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้รื่นเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว ได้ลุกขึ้นจากอาสนะ เข้าไปหานางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะนาง พราหมณีเวรหัญจานิโคตรว่า ขอแม่เจ้าผู้เจริญพึงทราบเถิด พระสมณะอุทายีแสดงธรรมไพเราะ ในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้ง พยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง นางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรกล่าวว่า แน่ะมาณพ ก็เธอ กล่าวคุณของพระสมณะอุทายีอย่างนี้ๆ พระสมณะอุทายีผู้อันฉันกล่าวแล้วว่า ท่านสมณะ ขอท่าน จงกล่าวธรรม ดังนี้ กล่าวว่า น้องหญิง เวลาจักมี ดังนี้แล้ว ก็ลุกขึ้นจากอาสนะหลีกไปเสีย มาณพนั้นกล่าวว่า ข้าแต่แม่เจ้าผู้เจริญ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า แม่เจ้าสวมเขียงเท้า นั่งบน อาสนะสูง คลุมศีรษะแล้วได้กล่าวดังนี้ว่า พระสมณะ ขอท่านจงกล่าวธรรม ด้วยว่าท่านผู้เจริญ เหล่านั้นเป็นผู้หนักในธรรม เป็นผู้เคารพธรรมนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรกล่าวว่า แน่ะมาณพ ถ้าเช่นนั้น เธอจงนิมนต์พระสมณะอุทายีตามคำของเรา ด้วยภัตเพื่อภัตตกิจอันจะมีในวันพรุ่งนี้ มาณพนั้นรับคำของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรแล้ว ได้เข้าไปหาท่านพระอุทายีถึงที่อยู่ ครั้น แล้วได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ได้ยินว่า ขอท่านพระอุทายีผู้เจริญจงรับภัตเพื่อภัตตกิจอันจะมี ในวันพรุ่งนี้ของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตร ผู้เป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าดังนี้ ท่านพระอุทายีรับ นิมนต์ด้วยดุษณีภาพ ครั้งนั้นแล โดยล่วงไปแห่งราตรีนั้น ในเวลาเช้า ท่านพระอุทายีนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปยังนิเวศน์ของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตร นั่งบนอาสนะอันเขาปูลาด ไว้แล้ว ครั้งนั้นแล นางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรยังท่านพระอุทายีให้อิ่มหนำสำราญด้วยขาทนีย โภชนียาหารอันประณีต ด้วยมือของตนเองแล้ว ทราบว่า ท่านพระอุทายีฉันเสร็จแล้ว ลดมือ จากบาตรแล้ว ได้ถอดเขียงเท้า นั่งบนอาสนะต่ำ เปิดศีรษะแล้วได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ท่านเจ้าข้า เมื่ออะไรหนอแล มีอยู่ พระอรหันต์ทั้งหลายจึงบัญญัติสุขและทุกข์ เมื่ออะไรไม่มี พระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่บัญญัติสุขและทุกข์ ฯ
[๒๑๒] ท่านพระอุทายีตอบว่า ดูกรน้องหญิง เมื่อจักษุแลมีอยู่พระอรหันต์ทั้งหลาย จึงบัญญัติสุขและทุกข์ เมื่อจักษุไม่มีพระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่บัญญัติสุขและทุกข์ ฯลฯ เมื่อใจมี อยู่ พระอรหันต์ทั้งหลายจึงบัญญัติสุขและทุกข์เมื่อใจไม่มี พระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่บัญญัติ สุขและทุกข์ ฯ