พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/124/210 211
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เวรหัญจานีสูตร
[๒๑๐] สมัยหนึ่ง ท่านพระอุทายีอยู่ ณ สวนมะม่วงของโตเทยยพราหมณ์ ใกล้
กามัณฑานคร ครั้งนั้นแล มาณพผู้เป็นศิษย์ของนางพราหมณีผู้เป็นเวรหัญจานิโคตร ได้เข้าไปหา
ท่านพระอุทายีถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอุทายีครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระอุทายียังมาณพนั้นให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้
อาจหาญ ให้รื่นเริงด้วยธรรมีกถา ครั้งนั้นแล มาณพผู้อันท่านพระอุทายีให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน
ให้อาจหาญ ให้รื่นเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว ลุกขึ้นจากอาสนะเข้าไปหานางพราหมณีเวรหัญจานิโคตร
ถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรว่า ขอแม่เจ้าผู้เจริญพึงทราบเถิด
พระสมณะอุทายีแสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด ประกาศ
พรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์ สิ้นเชิง ดังนี้ นางพราหมณี
เวรหัญจานิโคตรกล่าวว่าแน่ะมาณพ ถ้าอย่างนั้นเธอจงนิมนต์พระสมณะอุทายีตามคำของฉันด้วย
ภัตอันจะมีในวันพรุ่งนี้ด้วยเถิด มาณพนั้นรับคำของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรแล้ว เข้าไปหา
ท่านอุทายีถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ได้ยินว่า ขอท่านอุทายีผู้เจริญจงรับภัต
เพื่อภัตตกิจอันจะมีในวันพรุ่งนี้ ของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรผู้เป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าเถิด
ท่านพระอุทายีได้รับนิมนต์ด้วยดุษณีภาพ ครั้งนั้นแล โดยกาลล่วงไปแห่งราตรีนั้น ในเวลาเช้า
ท่านพระอุทายีนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปยังนิเวศของนางพราหมณีเวรหัญจานิโคตร แล้วนั่ง
บนอาสนะที่เขาปูลาดไว้แล้ว ครั้งนั้นแล นางพราหมณีเวรหัญจานิโคตรยังท่านพระอุทายีให้อิ่ม
หนำสำราญ ด้วยขาทนียโภชนียหารอันประณีต ด้วยมือของตนเองแล้ว ทราบว่าท่านพระอุทายี
ผู้ฉันแล้ว ลดมือจากบาตรแล้ว ได้สวมเขียงเท้านั่งบนอาสนะอัน สูง สูง คลุมศีรษะแล้ว ได้กล่าว
กะท่านพระอุทายีว่า ท่านสมณะ ขอท่านจงกล่าวธรรม ท่านพระอุทายีกล่าวว่า น้องหญิง เวลา
จักมี ดังนี้แล้ว ลุกขึ้นจากอาสนะแล้วหลีกไป ฯ
[๒๑๑] แม้ครั้งที่สอง มาณพนั้นได้เข้าไปหาท่านพระอุทายีถึงที่อยู่ได้ปราศรัยกับท่าน
พระอุทายี ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่งณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ท่านพระอุทายีได้ยังมาณพนั้นให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้รื่นเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว