พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/12/50 51

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 12

[๕๐] ส. ท่านผู้มีอายุ เราเป็นผู้ใหม่ บวชไม่นาน เพิ่งมาสู่ธรรมวินัยนี้ เราไม่อาจ บอกท่านได้พิสดาร พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับ ที่ตโปทาราม เขตพระนครราชคฤห์ ท่านเข้า ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล้ว ทูลถามเรื่องนี้ เถิด พระผู้มีพระภาคทรง พยากรณ์แก่ท่านอย่างใด ท่านพึงทรงจำเรื่องนั้นไว้อย่างนั้นเถิด ฯ ท. พระผู้มีพระภาคนั้น อันพวกเทวดามีบริวารมากจำพวกอื่นแวดล้อม แล้ว ข้าพเจ้าจะ เข้าไปเฝ้าไม่ได้ง่ายเลย ภิกษุ ถ้าท่านเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค นั้นแล้วพึงทูลถามเรื่องนี้ แม้ ข้าพเจ้าพึงมาเพื่อฟังธรรม ฯ พระสมิทธิเถระผู้มีอายุรับต่อเทวดานั้นว่า ท่านผู้มีอายุ เราจะทูลถามอย่างนี้ แล้วจึงเข้า ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ครั้นเข้าไปแล้ว จึงถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาค แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง ฯ
[๕๑] พระสมิทธิเถระผู้มีอายุ ครั้นนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลคำนี้กะพระ ผู้มีพระภาคว่า ข้าพระองค์ขอประทานโอกาสกราบทูล ข้าพระองค์ ตื่นขึ้นในเวลาใกล้รุ่งแห่งราตรี เข้าไปที่ลำน้ำตโปทาเพื่อล้างตัว ครั้นล้างตัวแล้ว กลับขึ้นยืน มีจีวรผืนเดียวรอให้ตัวแห้ง ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้นแล เมื่อราตรีใกล้สว่าง เทวดาองค์หนึ่ง มีวรรณงาม ยังลำน้ำตโปทา ทั้งสิ้นให้สว่างทั่ว เข้าไปหาข้าพระองค์ ครั้นแล้วจึงลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวด้วยคาถานี้ว่า ภิกษุ ท่านไม่บริโภคแล้ว ยังขออยู่ ท่านบริโภคแล้ว ก็ไม่ต้องขอเลย ภิกษุ ท่านบริโภคแล้ว จงขอเถิด กาลอย่าล่วงท่านไปเสียเลย ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อเทวดากล่าวอย่างนี้แล้ว ข้าพระองค์ได้กล่าวกะเทวดานั้นด้วย คาถาว่า เรายังไม่รู้กาล กาลยังลับ มิได้ปรากฏ เพราะเหตุนั้น เราไม่ บริโภคแล้ว จึงยังขออยู่ กาลอย่าล่วงเราไปเสียเลย ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้นแล เทวดานั้นลงมายืนที่พื้นดินแล้วกล่าว คำนี้กะข้าพระองค์ ว่า ภิกษุ ท่านเป็นบรรพชิตยังหนุ่มแน่น มีผมดำ ประกอบ ด้วยปฐมวัยจำเริญรุ่น จะเป็นผู้ไม่ เพลิดเพลินในกามทั้งหลายเสียแล้ว ภิกษุ ท่านจงบริโภคกามทั้งหลายเป็นของมนุษย์ อย่าละกาม ที่เห็นประจักษ์ วิ่งเข้าไป หาทิพยกามอันมีโดยกาลเลย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อเทวดานั้น กล่าวอย่างนี้แล้ว ข้าพระองค์ได้กล่าวคำนี้กะเทวดานั้นว่า ท่านผู้มีอายุ เราหาได้ละกามที่เห็น ประจักษ์ วิ่งเข้าไปหาทิพยกามอันมีโดยกาลไม่ ท่านผู้มีอายุ เราละกามอันมีโดย กาลแล้ว วิ่งเข้า