พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/116/462
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
การแสดงธรรมไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย และก็เพราะอาศัยบุคคลนี้ จึงควรแสดงธรรมแม้แก่บุคคล
อื่นๆ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลซึ่งเปรียบด้วยคนไข้๓ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๒
สังขารสูตร
[๔๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่มีความเบียดเบียน ปรุงแต่ง
วจีสังขารที่มีความเบียดเบียน ปรุงแต่งมโนสังขารที่มีความเบียดเบียน ครั้นแล้วเขาย่อมเข้าถึง
โลกที่มีความเบียดเบียนผัสสะที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ย่อมถูกต้องบุคคลผู้เข้าถึงโลก
ที่มีความเบียดเบียนนั้น เขาผู้อันผัสสะที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมเสวย
เวทนาอันมีความเบียดเบียน เป็นทุกข์โดยส่วนเดียวเหมือนพวกสัตว์นรกฉะนั้น บุคคลบางคนใน
โลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียนปรุงแต่งวจีสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียน
ปรุงแต่งมโนสังขารที่ไม่มีความเบียดเบียน ครั้นแล้วเขาย่อมเข้าถึงโลกที่ไม่มีความเบียดเบียน
ผัสสะอันไม่มีความเบียดเบียน ย่อมถูกต้องบุคคลผู้เข้าถึงโลกอันไม่มีความเบียดเบียนนั้น เขาผู้อัน
ผัสสะที่ไม่มีความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมเสวยเวทนาอันไม่มีความเบียดเบียนเป็นสุขโดย
ส่วนเดียว เหมือนพวกเทวดาสุภกิณหะ ฉะนั้น บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร
ที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้างปรุงแต่งวจีสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง
ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ปรุงแต่งมโนสังขารที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง
ครั้นแล้วเขาย่อมเข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ผัสสะที่มีความ
เบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมถูกต้องบุคคลนั้น บุคคลนั้นผู้อันผัสสะที่มีความ
เบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ถูกต้องแล้ว ย่อมเสวยเวทนาอันมีความเบียดเบียน
บ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง เจือปนด้วยสุขและ ทุกข์เหมือนมนุษย์ เทวดาบางพวก และ
วินิปาติกสัตว์บางพวก ฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๓