พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/115/392
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
หลายพันปี หลายแสนปี ด้วยวิบากอันเป็นส่วนเหลือของ กรรมนั้นเหมือนกัน ทรัพย์สมบัติ
อันไม่มีบุตรรับมรดกของเขานี้ จึงถูกขนเข้าพระคลังหลวงเป็นครั้งที่ ๗ ฯ
ดูกรมหาบพิตร ก็บุญเก่าของคฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นหมดสิ้นแล้ว และบุญใหม่ก็ไม่ได้
สะสมไว้ ฯ
ดูกรมหาบพิตร ก็ในวันนี้ คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐี ถูกไฟเผาอยู่ใน มหาโรรุวนรก ฯ
พระเจ้าปเสนทิโกศลกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คฤหบดีผู้เป็น เศรษฐี เข้าถึง
มหาโรรุวนรกอย่างนั้นหรือ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อย่างนั้นมหาบพิตร คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐี เข้า ถึงมหาโรรุวนรก
แล้ว ฯ
[๓๙๒] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้
ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
ข้าวเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรือข้าวของ ที่หวงแหนอย่างใดอย่างหนึ่ง
มีอยู่ ทาส กรรมกร คนใช้ และผู้อาศัยของเขา พึงพาเอาไปไม่ได้
ทั้งหมด จะต้องถึงซึ่งการละทิ้งไว้ทั้งหมด ฯ
ก็บุคคลทำกรรมใด ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ กรรมนั้นแหละ
เป็นของๆ เขา และเขาย่อมพาเอากรรมนั้นไป อนึ่งกรรมนั้นย่อม
ติดตามเขาไป เหมือนเงาติดตามตน ฉะนั้นเพราะฉะนั้น บุคคลควร
ทำกรรมดี สั่งสมไว้สำหรับภพหน้าบุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์
ทั้งหลายในโลกหน้า ฯ
จบ วรรคที่ ๒
__________________________________
รวมพระสูตรในวรรคที่ ๒ นี้ มี ๑๐ สูตร คือ ชฏิลสูตรที่ ๑ ปัญจราชสูตรที่ ๒
โทณปากสูตรที่ ๓ สังคามวัตถุสูตร กล่าวไว้ ๒ สูตร เป็นที่ ๔ และที่ ๕ ธีตุสูตรที่ ๖ อัปปมาท
สูตร ๒ สูตร เป็นที่ ๗ และที่ ๘ กับอปุตตกสูตร กล่าวไว้ ๒ สูตร เป็นที่ ๙ และที่ ๑๐
ครบวรรคพอดี ฯ
______________________________