พระสุตตันตปิฎกไทย: 9/114/171 172
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
ชิวหาใหญ่ ๑ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อไม่เลื่อมใสอยู่ ทันใดนั้น จึงทรงบันดาล
อิทธาภิสังขาร ให้อัมพัฏฐมาณพได้เห็นพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก และทรงแลบพระชิวหาสอด
เข้าช่องพระกรรณทั้ง ๒ กลับไปมา สอดเข้าช่องพระนาสิกทั้ง ๒ กลับไปมา แผ่ปิดจนมิดมณฑล
พระนลาต.
[๑๗๑] ครั้งนั้น อัมพัฏฐมาณพคิดว่า พระสมณโคดมประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ
๓๒ ประการบริบูรณ์ไม่บกพร่อง ดังนี้แล้วจึงได้ทูลลาพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ข้าพเจ้าขอทูลลาไป ณ บัดนี้ ข้าพเจ้ามีกิจมาก มีธุระมาก.
ดูกรอัมพัฏฐะ เธอจงสำคัญกาลอันควรบัดนี้ แล้วอัมพัฏฐมาณพก็ขึ้นรถม้ากลับไป.
โปกขรสาติพราหมณ์
[๑๗๒] สมัยนั้น พราหมณ์โปกขรสาติลุกออกมานั่งคอยรับอัมพัฏฐมาณพอยู่ ณ อาราม
ของตน พร้อมด้วยพราหมณ์หมู่ใหญ่ ฝ่ายอัมพัฏฐมาณพขับรถไปอารามของตนจนสุดทางที่รถ
ไปได้ แล้วลงเดินเข้าไปหาพราหมณ์โปกขรสาติ ไหว้แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พราหมณ์โปกขรสาติถามว่า พ่ออัมพัฏฐะ พ่อได้เห็นพระโคดมผู้เจริญพระองค์นั้นแล้วหรือ?
ได้เห็นแล้ว ท่าน.
ก็เกียรติศัพท์ของท่านพระโคดมพระองค์นั้นที่ขจรไป จริงตามนั้น ไม่เป็นอย่างอื่นหรือ
ท่านพระโคดมพระองค์นั้นทรงคุณเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นหรือ.
เกียรติศัพท์ของท่านพระโคดมพระองค์นั้นที่ขจรไป จริงตามนั้น ไม่เป็นอย่างอื่นเลย
ท่านพระโคดมพระองค์นั้นทรงคุณเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลย และประกอบด้วยมหาปุริส
ลักษณะ ๓๒ ประการ บริบูรณ์ไม่บกพร่อง.
พ่อได้สนทนาปราศรัยอะไร ด้วยหรือไม่?
ได้สนทนาปราศรัยด้วยทีเดียว.
พ่อได้สนทนาปราศรัยอย่างไรบ้าง?
ทันใดนั้นอัมพัฏฐมาณพได้เล่าเรื่องเท่าที่ตนได้สนทนาปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ให้
พราหมณ์โปกขรสาติทราบทุกประการ.