พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/108/116
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เมื่อราตรีล่วงไปแล้ว ปฐมยามสิ้นไปแล้วท่านพระอานนท์ลุกจากอาสนะกระทำจีวรเฉวียงบ่า
ข้างหนึ่ง ประนมอัญชลีไปทางที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญราตรีล่วงไปแล้ว ปฐมยามสิ้นไปแล้ว ภิกษุสงฆ์นั่งอยู่นานแล้ว ขอพระผู้มีพระภาค
ทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาค
ได้ทรงนิ่งอยู่ แม้ครั้งที่ ๒ เมื่อราตรีล่วงไปแล้ว มัชฌิมยามสิ้นไปแล้ว ท่านพระอานนท์ลุกจาก
อาสนะ กระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่งประนมอัญชลีไปทางที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ได้กราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ราตรีล่วงไปแล้ว มัชฌิมยามสิ้นไปแล้ว ภิกษุสงฆ์
นั่งอยู่นานแล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด แม้ครั้งที่ ๒
พระผู้มีพระภาคได้ทรงนิ่งอยู่ แม้ครั้งที่ ๓ เมื่อราตรีล่วงไปแล้ว ปัจฉิมยามสิ้นไปแล้ว อรุณขึ้น
ไปแล้ว จวนสว่างแล้ว ท่านพระอานนท์ลุกจากอาสนะกระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนม
อัญชลีไปทางที่พระผู้มีพระภาคประทับ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ราตรีล่วงไปแล้ว ปัจฉิมยามสิ้นไปแล้ว อรุณขึ้นไปแล้ว จวนสว่างแล้ว ภิกษุสงฆ์นั่งอยู่นาน
แล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่าดูกร
อานนท์ บริษัทยังไม่บริสุทธิ์ ลำดับนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ดำริว่าพระผู้มีพระภาค
ตรัสอย่างนี้ว่า ดูกรอานนท์ บริษัทยังไม่บริสุทธิ์ ดังนี้ ทรงหมายถึงใครหนอแล ลำดับนั้น
ท่านพระมหาโมคคัลลานะกำหนดใจของภิกษุสงฆ์ทุกหมู่เหล่าด้วยใจของตนแล้วได้พิจารณาเห็น
บุคคลนั้นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามกมีความประพฤติไม่สะอาดน่ารังเกียจ มีการงานปกปิด ไม่
เป็นสมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี ปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารีผู้เน่าใน ผู้อันราคะ
รั่วรดแล้ว ผู้เป็นดุจหยากเยื่อ นั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ครั้นแล้ว ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
ลุกจากอาสนะเข้าไปหาบุคคลนั้น แล้วได้กล่าวกะบุคคลนั้นว่า จงลุกขึ้นเถิดผู้มีอายุ พระผู้มี
พระภาคทรงเห็นท่านแล้ว ท่านไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ร่วมกับภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้นแล
บุคคลนั้นได้นิ่งเสีย แม้ครั้งที่ ๒... แม้ครั้งที่ ๓ ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็ได้กล่าวกะบุคคล
นั้นว่า จงลุกขึ้นเถิดผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาคทรงเห็นท่านแล้ว ท่านไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ร่วม
กับภิกษุทั้งหลาย แม้ครั้งที่ ๓ บุคคลนั้นก็ได้นิ่งเสีย ลำดับนั้นแล ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
จับบุคคลนั้นที่แขน ฉุดให้ออกไปจากภายนอกซุ้มประตู ใส่กลอนแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ให้บุคคล
นั้นออกไปแล้ว บริษัทบริสุทธิ์แล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด