พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/104/45

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 104
ภัททิยกาฬิโคธายปุตตเถราปทานที่ ๓ (๔๓) ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาสนะทอง
[๔๕] หมู่ชนทั้งปวงเข้าไปเฝ้าพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ทรงมีจิตเมตตา เป็นมหามุนีอัครนายกของโลกทั้งปวง ชนทั้งปวงย่อมถวายอามิส คือ สัตตุก้อน สัตตุผง น้ำและข้าวแก่พระศาสดา และในสงฆ์ผู้เป็นนาบุญ ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า แม้เราก็จักนิมนต์พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดและสงฆ์ ผู้ยอดเยี่ยมแล้ว จักถวายทาน แก่พระผู้มีพระภาคผู้ประเสริฐกว่าเทวดา ผู้คงที่ คนเหล่านี้เราส่งไปให้นิมนต์พระตถาคต และภิกษุสงฆ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นนาบุญ ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า บัลลังก์ทอง ๑ แสน ลาดด้วย เครื่องลาดวิเศษมีขนยาว ด้วยเครื่องลาดยัดนุ่น เครื่องลาดมีรูปดอกไม้ ผ้าเปลือกไม้และผ้าฝ้าย เราได้ให้จัดตั้งอาสนะอันควรค่ามาก สมควรแด่ พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระผู้ทรงรู้แจ้งโลก ประเสริฐ กว่าเทวดา ผู้องอาจกว่านระ แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จเข้ามาสู่ประตู บ้านเรา เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ต้อนรับพระสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนาถะ ของโลก ทรงมียศ แล้วนำเสด็จมาสู่เรือนของตน เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส อังคาสภิกษุ ๖ แสน และพระพุทธเจ้าผู้นายกของโลก ให้อิ่มหนำด้วยข้าวชั้นพิเศษ พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ผู้ทรงรู้แจ้ง โลก ทรงรับเครื่องบูชาแล้ว ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัส พระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดถวายอาสนะทองอันลาดด้วยเครื่องลาดวิเศษมีขน ยาวนี้ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เป็น ท้าวเทวราช อันนางอัปสรแวดล้อม เสวยสมบัติอยู่ ๗๔ ครั้ง จักได้เป็น พระเจ้าประเทศราช ครอบครองพสุธา ๑๐๐๐ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้า จักรพรรดิ ๕๑ ครั้ง จักเป็นผู้มีสกุลสูงในกำเนิดและภพทั้งปวง ภายหลัง ผู้นั้นอันกุศลมูลตักเตือนแล้วจักบวช จักได้เป็นพระสาวกของพระศาสดา