พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/104/453
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้มีหวังเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล
มีกัลยาณธรรม เธอได้สดับข่าวว่า ภิกษุชื่อนี้ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ เธอย่อมคิดดังนี้ว่า แม้เราก็จัก
ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองใน
ปัจจุบัน เข้าถึงอยู่สักคราวหนึ่งโดยแท้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า "บุคคลผู้มีหวัง" ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ปราศจากความหวังเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็น
พระอรหันตขีณาสพ เธอได้สดับข่าวว่า ภิกษุชื่อนี้ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เธอย่อมไม่คิด
ดังนี้ว่า ถึงเราก็จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ สักคราวหนึ่งโดยแท้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ
ความหวังในวิมุติของเธอผู้ยังไม่หลุดพ้นในก่อนนั้นระงับแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า
"บุคคลผู้ปราศจากความหวัง" ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในหมู่ภิกษุ มีบุคคล ๓ จำพวกนี้แล ปรากฏอยู่ ฯ
จักกวัตติสูตร
[๔๕๓] ๑๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นธรรมราชา ทรงยัง
จักรมิใช่ของพระราชาอื่นให้เป็นไป เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามพระผู้มี
พระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็อะไรเล่า เป็นราชาของพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม
เป็นธรรมราชา พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่าดูกรภิกษุ ธรรมเป็นราชาของพระเจ้าจักรพรรดิ
ผู้ทรงธรรม เป็นธรรมราชาดั่งนี้ แล้วได้ตรัสต่อไปว่า ดูกรภิกษุ พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม
เป็นธรรมราชาในโลกนี้ทรงอาศัยธรรมนั่นเอง สักการะธรรม เคารพธรรม ยำเกรงธรรม
มีธรรมเป็นธงมีธรรมเป็นตรา มีธรรมเป็นใหญ่ ทรงจัดการรักษา ป้องกันและคุ้มครอง
ที่ประกอบด้วยธรรมไว้ในอันโตชน ฯ
ดูกรภิกษุ อีกประการหนึ่ง พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นธรรมราชา ทรงอาศัยธรรม
นั่นเอง สักการะธรรม เคารพธรรม ยำเกรงธรรม มีธรรมเป็นธงมีธรรมเป็นตรา มีธรรมเป็นใหญ่