พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/103/44

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 103
พระเจ้าโอกกากราชจักทรงอภิเษกนางกัญญาผู้เป็นที่รัก กำลังรุ่นเป็นมเหสี พระนางจักยังพระเจ้าโอกกากราชให้โปรดปรานแล้วได้พร ครั้นพระนาง ได้พรแล้ว จักให้ขับไล่พระราชบุตรและพระราชบุตรี พระราชบุตรและ พระราชบุตรีทั้งหมดนั้นถูกขับไล่แล้ว จักไปยังภูเขา เพราะกลัวความแตก ชาติ พระราชบุตรทั้งหมดจักสมสู่กับพระกนิษฐภคินี ส่วนพระเชษฐภคินี พระองค์หนึ่งจักเป็นโรคพยาธิ กษัตริย์ทั้งหลายจักตั้ง (ใจ) ลงมั่นว่า ชาติของเราอย่าแตกแยกเลย กษัตริย์จึงนำมาสมสู่กับพระเชษฐภคินีนั้น ความเกิดแห่งสกุลโอกกากะจักแตกแยก โอรสของกษัตริย์เหล่านั้นจักมี พระนามว่าโลกิยะ โดยชาติจักได้เสวยโภคสมบัติ อันเป็นของมนุษย์มิใช่ น้อยในภพนั้น ผู้นี้เคลื่อนจากกายนั้นแล้วจักไปสู่เทวโลก แม้ในเทวโลก นั้น จักได้วิมานอันประเสริฐ เป็นที่รื่นรมย์ใจ ผู้นี้อันกุศลมูลตักเตือน แล้ว จักเคลื่อนจากเทวโลกมาสู่ความเป็นมนุษย์ จักมีชื่อว่าโสณะ จัก ปรารภความเพียร มีใจแน่วแน่ ตั้งความเพียรในศาสนาของพระศาสดา กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะนิพพาน พระผู้มีพระภาค พระนามว่า โคดมศากยบุตร ผู้ประเสริฐ ผู้รู้วิเศษ เป็นมหาวีระ ทรง เห็นคุณอนันต์จักตั้งไว้ในตำแหน่งเลิศ เมื่อฝนตกในที่ประมาณ ๔ นิ้ว หญ้าประมาณ ๔ นิ้ว ลมซัด เว้น พระผู้มีพระภาคผู้คงที่ ซึ่งทรงประกอบความเพียร ความถึงที่สุด ไม่มียิ่งขึ้นไปกว่านั้น เรามีตนฝึกแล้วในการฝึกอันอุดม เราตั้งจิตไว้ดีแล้ว เราปลงภาระทั้งปวง ลงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะดับแล้ว พระอังคีรสมหานาค มีพระชาติสูง ดังพระยาไกรสร ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ทรงตั้งเราไว้ในเอต ทัคคสถาน คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระโสณโกฏิยเวสสเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยประการฉะนี้แล. จบ โสณโกฏิยเวสสเถราปทาน ---------------