พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/102/44

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 102
โสณโกฏิยเวสสเถราปทานที่ ๒ (๔๒) ว่าด้วยผลแห่งการทำที่จงกรม
[๔๔] เราได้ให้ทำที่จงกรม ซึ่งทำการฉาบทาด้วยปูนขาว ถวายแด่พระมุนีพระ นามว่าอโนมทัสสีเชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ เราได้เอาดอกไม้ต่างๆ สี ลาดที่จงกรม ทำเพดานบนอากาศ แล้วทูลเชิญพระพุทธเจ้าผู้สูงสุดให้ทรง ใช้สอย เวลานั้น เราประนมอัญชลีถวายบังคมพระองค์ผู้มีวัตรอัน งาม แล้วมอบถวายศาลาลีแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคผู้เป็น ศาสดายอดเยี่ยมในโลก มีพระจักษุ ทรงรู้ความดำริของเรา จึงอนุเคราะห์ รับไว้ พระสัมพุทธเจ้าผู้เป็นทักขิไณยบุคคลในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ครั้นทรงรับแล้ว ประทับนั่ง ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ตรัสพระคาถา เหล่านี้ว่า ผู้ใดมีจิตโสมนัส ได้ถวายศาลาลีแก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว รถอันเทียมด้วยม้าพันหนึ่ง จักปรากฏแก่ผู้นี้ พร้อมเพรียงด้วยบุญกรรม ในเวลาใกล้ตาย ผู้นี้จักไปสู่เทวโลกด้วยยาน นั้น เทวดาทั้งหลายจักพลอยบันเทิง ในเมื่อผู้นี้ไปถึงภพอันดี วิมานอัน ควรค่ามาก เป็นวิมานประเสริฐฉาบทาด้วยดินแก้ว ประกอบด้วยปราสาท อันประเสริฐ จักครอบงำวิมานอื่น ผู้นี้จักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด ๓ หมื่นกัลป จักได้เป็นท้าวเทวราชตลอด ๒๕ กัลป และจักได้เป็นพระ เจ้าจักรพรรดิตลอด ๗๗ กัลป พระเจ้าจักรพรรดินั้นแม้ทั้งหมดมีพระนาม เดียวกันว่ายโสธร ผู้นี้ได้เสวยสมบัติทั้งสองแล้ว ก่อสร้างสั่งสมบุญ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิใน ๒๘ กัลป (อีก) แม้ในภพนั้น จักมี วิมานอันประเสริฐ ที่วิสสุกรรมเทพบุตรนิรมิตให้ผู้นี้จักครองบุรีซึ่งมีเสียง ๑๐ อย่างต่างๆ กัน ในกัลปจะนับประมาณมิได้ แต่กัลปนี้ ผู้นี้จักได้ เป็นพระราชารักษาแผ่นดิน มีฤทธิ์มาก มีพระนามชื่อว่าโอกกากะ อยู่ใน แว่นแคว้น นางกษัตริย์ผู้มีวัยอันประเสริฐ มีชาติสูงกว่าหญิง ๖ หมื่น ทั้งหมด จักประสูติพระราชบุตรและพระราชบุตรี ๙ พระองค์ ครั้น ประสูติพระราชบุตรและพระราชบุตรี ๙ พระองค์แล้ว จักสิ้นพระชนม์