พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/100/108 109      
      สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
      
     
 
    
        
          
                  ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเตือนภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย     บัดนี้เราขอ
เตือนพวกเธอ สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา พวกเธอจงยัง      ความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
ความปรินิพพานแห่งตถาคต จักมีในไม่ช้า โดย      ล่วงไปอีกสามเดือนแต่นี้ ตถาคตก็จักปรินิพพาน ฯ
      พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ ตรัสพระคาถา
ประพันธ์ต่อไปอีกว่า
 [๑๐๘] คนเหล่าใด ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพาลทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมี ทั้งขัดสน
ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ภาชนะดินที่นายช่าง  หม้อกระทำแล้ว ทั้ง
เล็กทั้งใหญ่ ทั้งสุกทั้งดิบ ทุกชนิด     มีความแตกเป็นที่สุด ฉันใด ชีวิต
ของสัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้น ฯ
พระศาสดาได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า    วัยของเรา แก่หง่อมแล้ว
ชีวิตของเราเป็นของน้อย เราจักละ    พวกเธอไป เรากระทำที่พึ่งแก่ตนแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลายพวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีล อันดีเถิด จงเป็น
ผู้  มีความดำริตั้งมั่นดีแล้ว ตามรักษาจิตของตนเถิด ผู้ใด จักเป็น
ผู้   ไม่ประมาท อยู่ในธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นจักละชาติสงสาร แล้วกระทำที่สุด
แห่งทุกข์ได้ ดังนี้ ฯ
		    จบภาณวารที่สาม ฯ
 [๑๐๙] ครั้งนั้น เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตร และจีวร เสด็จ
เข้าไปยังเมืองเวสาลีเพื่อบิณฑบาต เสด็จเที่ยวบิณฑบาตในเมือง   เวสาลีแล้ว เวลาปัจฉาภัต เสด็จ
กลับจากบิณฑบาต ทอดพระเนตรเมืองเวสาลี      เป็นนาคาวโลก แล้วรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูกรอานนท์ การเห็นเมืองเวสาลี      ของตถาคตครั้งนี้ จักเป็นครั้งสุดท้าย มาไปกันเถิดอานนท์
เราจักไปยังบ้าน ภัณฑคาม ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น
 พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่เสด็จถึงบ้านภัณฑคามแล้ว ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาค
ประทับอยู่ ณ บ้านภัณฑคามนั้น ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาครับสั่ง  กะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ