- หน้า 59 - 
ตายไป  ข้อที่วิญญาณอันจะเป็นไปในภพนั้นๆ  พึงเป็นวิญญาณเข้าถึงภพอากิญจัญญายตนะ  นั่น
เป็นฐานะที่มีได้  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  นี้เราเรียกว่า  ปฏิปทามีอากิญจัญญายตนสมาบัติเป็นที่
สบายข้อที่  ๑  ฯ
	
[๘๖]  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ประการอื่นยังมีอีก  อริยสาวกอยู่ในป่าก็ดี   อยู่ที่โคนไม้ก็ดี
อยู่ในเรือนว่างก็ดี  ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า  สิ่งนี้ว่างเปล่าจากตนหรือจากความเป็นของตน
เมื่ออริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้วอย่างนี้  เป็นผู้มากด้วยปฏิปทานั้นอยู่  จิตย่อมผ่องใสในอายตนะ
เมื่อมีความผ่องใส  ก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ  หรือจะน้อมใจไปในปัญญาได้ในปัจจุบัน  เมื่อ
ตายไป  ข้อที่วิญญาณ  อันจะเป็นไปในภพนั้นๆ  พึงเป็นวิญญาณเข้าถึงภพอากิญจัญญายตนะ  นั่น
เป็นฐานะที่มีได้  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  นี้เราเรียกว่า  ปฏิปทามีอากิญจัญญายตนสมาบัติเป็นที่สบาย
ข้อที่  ๒  ฯ
	
[๘๗]  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ประการอื่นยังมีอีก  อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า  เรา
ไม่มีในที่ไหนๆ  สิ่งน้อยหนึ่งของใครๆ  หามีในเรานั้นไม่  และสิ่งน้อยหนึ่งของเราก็หามีใน
ที่ไหนๆ  ไม่  ในใครๆ  ย่อมไม่มีสิ่งน้อยหนึ่งเลยเมื่ออริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้วอย่างนี้  เป็น
ผู้มากด้วยปฏิปทานั้นอยู่  จิตย่อมผ่องใสในอายตนะ  เมื่อมีความผ่องใส  ก็จะเข้าถึงอากิญ
จัญญายตนะ  หรือจะน้อมใจไปในปัญญาได้ในปัจจุบัน  เมื่อตายไป  ข้อที่วิญญาณอันจะเป็น
ไปในภพนั้นๆพึงเป็นวิญญาณเข้าถึงภพอากิญจัญญายตนะ  นั่นเป็นฐานะที่มีได้  ดูกรภิกษุ
ทั้งหลายนี้เราเรียกว่า  ปฏิปทามีอากิญจัญญายตนสมาบัติเป็นที่สบายข้อที่  ๓  ฯ
	
[๘๘]
  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ประการอื่นยังมีอีก  อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า  กาม
ทั้งที่มีในภพนี้  ทั้งที่มีในภพหน้า  และกามสัญญา  ทั้งที่มีในภพนี้  ทั้งที่มีในภพนี้  รูปทั้งที่มี
ในภพนี้  ทั้งที่มีในภพหน้า  และรูปสัญญาทั้งที่มีในภพนี้  ทั้งที่มีในภพหน้า  และอาเนญชสัญญา
อากิญจัญญายตนสัญญาสัญญาทั้งหมดนี้  ย่อมดับไม่มีเหลือในที่ใด  ที่นั่นคือเนวสัญญานา
สัญญายตนะอันดีประณีต  เมื่ออริยสาวกปฏิบัติแล้วอย่างนี้  เป็นผู้มากด้วยปฏิปทานั้นอยู่
จิตย่อมผ่องใสในอายตนะ  เมื่อมีความผ่องใส  ก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ  หรือจะ
น้อมใจไปในปัญญาได้ในปัจจุบัน  เมื่อตายไป  ข้อที่วิญญาณอันจะเป็นไปในภพนั้นๆ  พึงเป็น
   
  สุตันตปิฎกไทย:
  - อุปริ. ม. 14/77/88.