สุตันตปิฎกไทย

ติก. อํ. 20/151/460. เล่ม 20, หน้า 113 - 114, ข้อ 460

- หน้า 113 -

ปุคคลวรรคที่ ๑ สวิฏฐสูตร

[๔๖๐]
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านพระสวิฏฐะกับท่านพระมหาโกฏฐิตะ ได้พากันไปหาท่านพระสารีบุตรจนถึงที่อยู่ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าว กะท่านพระสวิฏฐะว่า ดูกรอาวุโสสวิฏฐะ บุคคล ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็น ไฉน คือ กายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ ดูกรท่านผู้มีอายุ บุคคล ๓ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ ท่านชอบใจบุคคลจำพวก ไหนซึ่งเป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ท่านพระสวิฏฐะได้ตอบว่า ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร บุคคล ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก๓ จำพวกเป็นไฉน คือ กายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตต บุคคล ๑ สัทธาวิมุตบุคคล ๑ ข้าแต่ท่านผู้มีอายุ บุคคล ๓ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ กระผมชอบใจบุคคลผู้สัทธาวิมุตต ซึ่งเป็นผู้งามกว่าแลประณีตกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะสัทธินทรีย์ของบุคคลนี้มีประมาณยิ่งลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตร ได้ถามท่านพระมหาโกฏฐิตะว่า ดูกรอาวุโสโกฏฐิตะบุคคล ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ กายสักขีบุคคล ๑ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ ดูกร ท่านผู้มีอายุ บุคคล ๓ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ ท่านชอบใจ บุคคลจำพวกไหซึ่งเป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ท่านพระมหาโกฏฐิตะได้ตอบว่า ข้าแต่ ท่านพระสารีบุตร บุคคล ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ กายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ บุคคล ๓ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก บรรดา บุคคล ๓ จำพวกนี้ กระผมชอบใจบุคคลกายสักขีซึ่งเป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ข้อนั้น

- หน้า 114 -

เพราะเหตุไร เพราะสมาธินทรีย์ของบุคคลนี้มีประมาณยิ่ง ลำดับนั้นแล ท่านพระมหาโกฏฐิตะ ได้ถามท่านพระสารีบุตรบ้างว่า ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร บุคคล ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ กายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ บุคคล ๓ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ ท่านชอบใจบุคคลจำพวกไหน ซึ่ง เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ท่านพระสารีบุตรได้ตอบว่าดูกรท่านโกฏฐิตะ บุคคล ๓ จำพวก นี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือกายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธา วิมุตตบุคคล ๑ บุคคล ๓ จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ ผมชอบใจ บุคคลผู้ทิฏฐิปัตตะซึ่งเป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะปัญญินทรีย์ ของบุคคลนี้มีประมาณยิ่ง ครั้งนั้นแล ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวกะท่านพระสวิฏฐะและท่าน พระมหาโกฏฐิตะว่า ดูกรอาวุโส เราทั้งหมดด้วยกันต่างได้พยากรณ์ตามปฏิภาณของตน มาไป ด้วยกันเถอะ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วกราบทูลข้อความนี้ พระผู้มีพระภาค จักทรงพยากรณ์แก่เราอย่างไร เราจักทรงจำพระพุทธพยากรณ์นั้นไว้อย่างนั้น ท่านพระสวิฏฐะ กับท่านพระมหาโกฏฐิตะได้รับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตร ท่านพระสวิฏฐะ และท่านพระมหาโกฏฐิตะ ได้พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย บังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วท่านพระสารีบุตรได้กราบทูลการ เจรจาปราศรัยกับท่านพระสวิฏฐะและท่านมหาโกฏฐิตะทั้งหมดแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า ดูกรสารีบุตร---การที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่ จะมีได้ คือ บุคคลผู้สัทธาวิมุตตนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ บุคคลผู้เป็นกายสักขี ผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ ก็พึงเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามี ดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ใน ข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ บุคคลผู้ทิฏฐิปัตตะ เป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อความเป็นพระอรหันต์ บุคคลผู้สัทธาวิมุตตเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามี และแม้บุคคล ผู้กายสักขีก็พึงเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามีดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดย ส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้ บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่าไม่ใช่จะทำได้โดย ง่ายเลย ฯ จบสูตรที่ ๑
สุตันตปิฎกไทย: - ติก. อํ. 20/151/460.