สุตันตปิฎกไทย

ธ. ขุ. 25/43/26. เล่ม 25, หน้า 30, ข้อ 26

- หน้า 30 -

ในธรรม เมื่อดื่มรส ดื่มรสอันเกิดแต่วิเวกและรสแห่งความสงบแล้ว ย่อมไม่มีความกระวนกระวายไม่มีบาป การเห็นพระอริยะเจ้าทั้งหลายเป็น ความดี การอยู่ร่วมกับพระอริยะเจ้าเหล่านั้น เป็นสุขทุกเมื่อ บุคคลพึง เป็นผู้มีความสุขเป็นนิตย์ได้ เพราะการไม่เห็นคนพาลทั้งหลายด้วยว่า บุคคลผู้สมคบกับคนพาลเที่ยวไป ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน การอยู่ ร่วมกับคนพาลเป็นทุกข์ทุกเมื่อ เหมือนการอยู่ร่วมกับศัตรู ส่วน นักปราชญ์มีการอยู่ร่วมเป็นสุข เหมือนสมาคมแห่งญาติ เพราะเหตุนั้นแล บุคคลพึงคบบุคคลนั้นผู้เป็นนักปราชญ์ มีปัญญา เป็นพหูสูต มีปกติ นำธุระไปมีวัตร เป็นพระอริยะ เป็นสัปบุรุษ ผู้มีปัญญาดีเช่นนั้น เหมือนพระจันทร์คบครองแห่งนักษัตร ฉะนั้น ฯ จบสุขวรรคที่ ๑๕ คาถาธรรมบท ปิยวรรคที่ ๑๖

[๒๖]
บุคคลประกอบตนในกิจที่ไม่ควรประกอบ และไม่ประกอบตนในกิจที่ ควรประกอบ ละประโยชน์เสีย มักถือเอาสัตว์หรือสังขารว่าเป็น ที่รัก ย่อมทะเยอทะยานต่อบุคคลผู้ประกอบตามตน บุคคลอย่าสมาคม แล้วด้วยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก หรือด้วยสัตว์หรือสังขารอันไม่ เป็นที่รัก ในกาลไหนๆเพราะการไม่เห็นสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก และการเห็นสัตว์หรือสังขารอันไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์ เพราะเหตุนั้น บุคคลไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก เพราะการพลัดพรากจากสัตว์ และสังขารอันเป็นที่รัก ลามก กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย ย่อมไม่มี แก่บุคคลที่ไม่มีสัตว์และสังขารอันเป็นที่รักและไม่เป็นที่รัก ความโศก ย่อมเกิดแต่ของที่รักภัยย่อมเกิดแต่ของที่รัก ความโศกย่อมไม่มีแก่ บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว จากของที่รัก ภัยจักมีแต่ที่ไหน ความโศกย่อมเกิด แต่ความรัก ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้พ้นวิเศษ
สุตันตปิฎกไทย: - ธ. ขุ. 25/43/26.