เนื้อความทั้งหมด :-(ดูรายละเอียดเกี่ยวกับขันธ์ห้า แต่ละขันธ์ โดยอริยสัจสี่ ที่หน้า ๑๖๘, ๑๙๒, ๑๙๘, ๒๐๒, ๒๐๘ แห่งหนังสือเล่มนี้.--สูตรข้างบนนี้แสดงวัตถุแห่งการรู้ด้วยเบญจขันธ์;ในสูตรอื่นแสดงด้วย อินทรีย์ห้า คือ สุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์ อุเปกขินทรีย์, -๑๙/๒๒๖/๙๒๒-๙๒๓.--มีสูตรอื่นแสดงด้วย อายตนะภายในหก ก็มี, - ๑๙/๒๗๓/๘๑๒--และสูตรอื่นแสดงด้วย ปฏิจจสมุปปันนธรรม ๑๑ อย่าง มีชรามรณะ ชาติ ....จนถึง...วิญญาณ สังขาร ก็มี, - ๑๖/๕๓/๙๔).--การรู้ปัญจุปาทานขันธ์โดยธรรมลักษณะห้า--ภิกษุ ท. ! อุปาทานขันธ์ ๕ อย่างนี้ มีอยู่, ห้าอย่างอะไรบ้างเล่า ?--ภิกษุ ท. ! ปัญจุปาทานขันธ์นั้น ได้แก่ ขันธ์คือรูปที่ถูกอุปาทานครองแล้ว, ขันธ์คือเวทนาที่ถูกอุปาทานครองแล้ว, ขันธ์คือสัญญาที่ถูกอุปาทานครองแล้ว, ขันธ์คือสังขารที่ถูกอุปาทานครองแล้ว, และขันธ์คือวิญญาณ ที่ถูกอุปาทานครองแล้ว.--ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดก็ตาม ยังไม่รู้จักความก่อขึ้นแห่งอุปาทานขันธ์ห้านี้, ไม่รู้จักความตั้งอยู่ไม่ได้ของอุปาทานขันธ์ห้านี้, ไม่รู้จักอุปาทานขันธ์ห้าในแง่ที่มันให้รสอร่อย, ไม่รู้จักอุปาทาขันธ์ห้าในแง่ที่มันให้แต่โทษร้ายกาจ, ทั้งไม่รู้จักอุบายที่ไปให้พ้นอุปาทานขันธ์ห้านี้ ตามที่ถูกที่จริงแล้ว ; ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น แม้สมมติกันว่าเป็นสมณะผู้หนึ่งๆ ในสมณะทั้งหลายก็ตาม แม้สมมติกันว่าเป็นพราหมณ์ผู้หนึ่งๆ--ในบรรดาพราหมณ์ทั้งหลายก็ตาม ก็หาอาจเป็นสมณะ เป็นพราหมณ์ได้ไม่, หาสามารถทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ที่ตนมาเป็นสมณะ หรือประโยชน์ที่ตนมาเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงแล้วแลอยู่ ในทิฏฐธรรมนี้ ได้ไม่เลย.--(ปฏิปักขนัย)--ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ได้รู้จักความก่อขึ้นแห่งอุปาทานขันธ์ห้านี้, รู้จักความตั้งอยู่ไม่ได้ของอุปาทานขันธ์ห้านี้, รู้จักอุปาทานขันธ์ห้าในแง่ที่มันให้รสอร่อย, รู้จักอุปาทานขันธ์ห้าในแง่ที่มันให้แต่โทษร้ายกาจ, ทั้งได้รู้จักอุบายที่ไปให้พ้นอุปาทานขันธ์ห้านี้ ตามที่ถูกที่จริงแล้ว; ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ที่สมมติกันแล้วว่าเป็นสมณะบ้าง เป็นพราหมณ์บ้าง ก็เป็นสมณะหรือเป็นพราหมณ์ได้จริง และทำให้แจ้งได้ซึ่งประโยชน์ที่ตนเข้ามาเป็นสมณะ หรือประโยชน์ที่ตนมาเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงแล้วแลอยู่ ในทิฏฐธรรมนี้.- |