เนื้อความทั้งหมด :-[ขอให้ผู้ศึกษาสังเกตให้เห็นว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณตามนัยนี้ ไม่ขัดต่อหลักมหาปเทสแห่งมหาปรินิพพานสูตร (สุตฺเต โอสาเรตพฺพํ วินเย สนฺทสฺเสตพฺพํ), และไม่มีลักษณะแห่งสัสสตทิฏฐิดังที่กล่าวไว้ในนิทเทศแห่งวิชชาสามทั่วๆไป. ขอให้นักศึกษาโปรดพิจารณาดูเป็นพิเศษด้วย]--อริยวิโมกข์ คือ อมตธรรม--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?”--อานนท์ ! อริยสาวกในกรณีนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า :---๑. กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย ;--๒. กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญา ที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย ;--๓. รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย ;--๔. รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย ;--๕. อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย ;--๖. อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย ;--๗. เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย.--(ธรรมทั้งหมดเจ็ดหมู่) นั้น (ล้วนแต่) เป็นสักกายะ. สักกายะมีประมาณเท่าใด, อมตธรรมนั้น คือวิโมกข์แห่งจิต เพราะความไม่ยึดมั่น ซึ่งสักกายะมีประมาณเท่านั้น.--อานนท์ !ด้วยอาการอย่างนี้แล เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราแสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทาเราแสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราแสดงแล้ว, การอาศัยแล้วๆ ซึ่งสัปปาย---ปฏิปทา (ตามลำดับ ๆ) แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราก็แสดงแล้ว, นั่นแหละ คืออริยวิโมกข์.--อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูลอาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. อานนท์ ! นั่น โคนไม้, นั่นเรือนว่าง. อานนท์! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.- |